คิดยกกำลังสอง: ทักษะสำหรับโลกอนาคต
ในศตวรรษที่ 21 การเรียนแบบท่องจำ และการเรียนเพื่อรู้แต่ข้อมูล (information) เพียงอย่างเดียว จะมีประโยชน์น้อยลงทุกที หรือเรียกได้ว่า ความรู้จาก 1i ไม่เพียงพอ แต่ต้องปรับเป็น 4i คือ
(i)magination – จินตนาการ
(i)nspiration – แรงดลใจ
(i)nsight – ความเข้าใจลุ่มลึก
(i)ntuition – ญานทัศน์ การหยั่งรู้
เพราะเรากำลังเจอโจทย์ท้าทายแห่งยุค ในการพัฒนาคนให้พร้อมสำหรับ “งานที่ยังไม่มีในวันนี้ โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร”
ดังนั้น ทักษะสำหรับโลกอนาคต…ที่ต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่วันนี้ คืออะไร
สรุป
ทักษะสำหรับโลกอนาคต การเตรียมตัวตัวพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้ทันต่อความสามารถของ Ai เพราะในอนาคตนักเรียนจะต้องแข่งขันกับปัญญาประดิษฐ์หรือ Ai ดังนั้นผู้สอนควรเร่งปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ ต้องเตรียมตัวนักเรียนสำหรับงานที่ยังไม่มี โดยต้องใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เกิด และแก้ปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตคือเรียนรู้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยชรา ทักษะที่สำคัญคือ ทักษะที่ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนแบบเดิมคือเน้นตัว I ตัวเดียวคือ Information คือการเอาเท็จจริงเอาข้อมูลจากห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การเรียนแบบนี้จะมีประโยชน์น้อยลง การเรียนแบบวิทยาศาสตร์ที่สู้ Ai ได้ควรจะมี 4I คือ 1.จินตนาการ (Imagination ) 2.แรงดลใจ (Inspiration) 3.ความเข้าใจลุ่มลึก (Insight) 4.ญาณทัศน์ (Intuition) และควรมีทักษะแห่งโลกหรือทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 หรือ ASK ได้แก่ AคือAttitude(ทัศนคติ+อุปนิสัย) SคือSkill(ทักษะ) และKคือKnoeledge(ความรู้) การเรียนปัจจุบันเน้น K มากเกินไป เน้น AและSน้อยเกินไป การเรียนการสอนต้องเป็นสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนมบทบาทมากขึ้น และเปลี่ยนจากการเรียนรู้โดยการฟังเป็นการเรียนรู้โดยการปฏิบัติลงมือทำ
การเรียนแบบวิทยาศาสตร์ที่สามารถสู้ Ai หรือปัญญาประดิษฐ์ได้นั้น ควรจะมี 4I ซึ่งได้แก่
1. Imagination (จินตนาการ) คือการสร้างภาพขึ้นในใจ
2.Inspiration (แรงดลใจ) คือสิ่งที่ทำให้มีแรงขับเคลื่อน
3.Insight (ความเข้าใจลุ่มลึก) คือ รู้อย่างลึกซึ้ง
4.Intuition (ญาณทัศน์) คือ ความรอบรู้จัดเจน สามารรู้โดยอัตโนมัติ
ในการสู้กับAi ควรมีทักษะแห่งโลกหรือทักษะแห่งศตวรรษที่ 21หรือ ASK ได้แก่
A Attitude (ทัศนคติ+อุปนิสัย) คือ แนวความคิดเห็น, ความรู้สึกนึกคิดที่บุคคลมีต่อสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งตนเอง โดยมีเหตุผลประกอบ
S Skill (ทักษะ) คือ ความชำนาญในด้านต่างๆ
K Knowledge (ความรู้) คือ สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเรียน
การเรียนปัจจุบันเน้น K มากเกินไป เน้น AและSน้อยเกินไป การเรียนการสอนต้องเป็นสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนมีบทบาทมากขึ้น และเปลี่ยนจากการเรียนรู้โดยการฟังเป็นการเรียนรู้โดยการปฏิบัติลงมือทำ
ศึกษาเพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=qWTpnlOYcrY
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น